Tom 25/11/2025

IC Markets 2025 รีวิวครบวงจร: การกำกับดูแล ประเภทบัญชี ต้นทุนการเทรด และประสบการณ์ใช้งานจริง

Tom

IC Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ – ภาพรวมสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

IC Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำระดับโลก มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย จุดเด่นของ IC Markets คือสเปรดต่ำมาก การส่งคำสั่งรวดเร็ว และบัญชีหลากหลายสำหรับทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและมืออาชีพ ทำให้ชื่อเสียงของ IC Markets เป็นที่รู้จักในกลุ่มเทรดเดอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ

ในปี 2025 IC Markets ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader ครอบคลุมการเทรด Forex ทองคำ ดัชนี หุ้น CFD และพลังงาน สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่มองหาโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ ระบบเทรดเสถียร และมีตัวเลือกบัญชีหลากหลาย IC Markets ถือเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง

อ่านสรุปสั้น ๆ ก่อนตัดสินใจ
  • ก่อตั้งปี 2007 มีชื่อเสียงในตลาดรายย่อยมาหลายปี
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, CySEC และ SCB + ระบบแยกเงินลูกค้า
  • บัญชีหลากหลาย ตั้งแต่ Standard, Raw Spread, cTrader จนถึง Islamic
  • สเปรดต่ำและรวดเร็ว เหมาะกับเทรดเดอร์สาย Scalping
  • จุดขายหลัก: ระบบเทรดเสถียร, สเปรดต่ำ และตัวเลือกแพลตฟอร์ม MT4/MT5/cTrader

การกำกับดูแลและความปลอดภัยของ IC Markets

สำหรับเทรดเดอร์ไทย สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบว่า “โบรกเกอร์นี้น่าเชื่อถือและปลอดภัยหรือไม่” IC Markets อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินชั้นนำหลายแห่ง เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส) และ FSA (เซนต์วินเซนต์) ทำให้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านเงินทุน การรายงานบัญชี และการคุ้มครองเงินลูกค้าอย่างเข้มงวด

IC Markets ใช้ระบบบัญชีเงินลูกค้าแยกออกจากบัญชีบริษัทอย่างชัดเจน (Segregated Accounts) เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้เงินทุนของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection) สำหรับบัญชีบางประเภท เพื่อให้ลูกค้าไม่สูญเสียเงินเกินจำนวนที่ฝากในสภาวะตลาดผันผวน

ภาพรวมด้านความน่าเชื่อถือ
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, CySEC และ FSA ทำให้เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
  • ใช้ระบบบัญชีแยกเงินลูกค้าและเงินบริษัทอย่างชัดเจน
  • บางบัญชีมีการคุ้มครองยอดติดลบ (Negative Balance Protection)
  • อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงหลักยังขึ้นอยู่กับ “ภาวะตลาด + การใช้เลเวอเรจของเราเอง”

ประเภทบัญชีเทรดของ IC Markets

IC Markets มีการออกแบบบัญชีให้ครอบคลุมกลุ่มเทรดเดอร์หลายระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นที่ต้องการลงทุนด้วยทุนไม่มาก ไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพที่เน้นสเปรดต่ำ ใช้เลเวอเรจสูง หรือเทรดด้วยกลยุทธ์อัตโนมัติ ประเภทบัญชีหลัก ๆ มีดังนี้

  • บัญชี Standard – เป็นบัญชีพื้นฐาน เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ ใช้สเปรดแบบลอยตัวและไม่คิดค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการเทรดด้วยล็อตมาตรฐาน
  • บัญชี Raw Spread – ให้สเปรดต่ำมาก แต่คิดค่าคอมมิชชั่นแยก เหมาะสำหรับ Day Trader หรือ Scalper ที่ต้องการลดต้นทุนต่อการเทรดและเปิดปิดออเดอร์บ่อย
  • บัญชี cTrader – สำหรับผู้ที่ชอบใช้แพลตฟอร์ม cTrader เน้นการส่งคำสั่งรวดเร็ว และสามารถใช้งาน EA หรือกลยุทธ์อัตโนมัติได้เต็มรูปแบบ
  • บัญชี Islamic – เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักศาสนาอิสลาม โดยไม่มีดอกเบี้ยสวอประหว่างคืนตำแหน่งข้ามคืน

ทุกบัญชีของ IC Markets สามารถเลือกแพลตฟอร์ม MT4, MT5 หรือ cTrader ได้ตามความถนัด เทรดเดอร์ควรพิจารณาทั้งเรื่องประเภทบัญชี สเปรด ค่าคอมมิชชั่น และเลเวอเรจให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตนเอง

เลือกบัญชีอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง
  • มือใหม่ / ทุนไม่มาก: บัญชี Standard เป็นจุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยและเข้าใจง่าย
  • เทรดเดอร์ที่เน้นสเปรดต่ำและ Scalping: บัญชี Raw Spread จะเหมาะที่สุด
  • ผู้สนใจเทรดตามหลักศาสนาอิสลามหรือใช้ cTrader: เลือกบัญชี Islamic หรือ cTrader ตามความถนัด

ต้นทุนการเทรดและสเปรดของ IC Markets

ต้นทุนการเทรดกับ IC Markets ประกอบด้วยสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่าสว็อปสำหรับการถือข้ามคืน สำหรับบัญชี Standard จะไม่มีค่าคอมมิชชั่นแยก ใช้เพียงสเปรดลอยตัวซึ่งถือว่ามีความแข่งขันสูง ส่วนบัญชี Raw Spread จะมีสเปรดต่ำมากและคิดค่าคอมมิชชั่นแยก เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้น Scalping หรือ Day Trading ที่ต้องการลดต้นทุนต่อการเทรดแต่ละครั้ง

เทรดเดอร์ควรสังเกต “สเปรดจริง” ในช่วงเวลาที่เข้าเทรดบ่อยที่สุด เช่น ช่วงตลาดเอเชียและยุโรป หรือช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เพราะต้นทุนจริงอาจสูงกว่าตัวเลขที่โบรกเกอร์โฆษณาในช่วงเวลาที่สภาพคล่องสูง นอกจากนี้การใช้เลเวอเรจสูงควรคำนวณต้นทุนรวมอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ค่าธรรมเนียมกัดกำไรจนเกินไป

เช็กลิสต์เรื่องต้นทุนก่อนเปิดบัญชี
  • ตรวจสอบสเปรดจริงของคู่เงินที่เทรดบ่อยในช่วงเวลาที่เข้าเทรด
  • เปรียบเทียบต้นทุนรวมระหว่างบัญชี Standard และ Raw Spread รวมถึงค่าคอมมิชชั่น
  • รวมค่าสว็อปสำหรับผู้ถือออร์เดอร์ข้ามคืนในการวางแผนบริหารเงินทุน
  • พิจารณาการใช้เลเวอเรจร่วมกับต้นทุนทั้งหมด เพื่อประเมินความเสี่ยงและกำไรที่แท้จริง

แพลตฟอร์มการเทรดของ IC Markets

IC Markets ใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader เป็นหลัก ทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทั่วโลกคุ้นเคย นอกจากนี้ยังมี cTrader สำหรับผู้ที่ต้องการเงื่อนไขแบบ ECN และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ลึกขึ้น ทำให้ IC Markets เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและเทรดเดอร์มืออาชีพ

  • MT4 – เหมาะกับเทรดเดอร์สายเทคนิค ต้องการอินดิเคเตอร์และ EA จำนวนมาก อินเทอร์เฟซคุ้นมือ ใช้งานง่าย
  • MT5 – เพิ่ม Timeframe, ประเภทคำสั่ง และสินทรัพย์ให้หลากหลายขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ใหม่ ๆ และมองตลาดระยะยาว
  • cTrader – เหมาะกับสาย ECN เน้นการเปิดปิดออเดอร์เร็ว มี Depth of Market (DOM) และฟังก์ชัน Algo Trading รองรับ
  • Mobile & WebTrader – รองรับการเทรดผ่านแอปมือถือและเว็บเบราว์เซอร์ ติดตามพอร์ตและจัดการออเดอร์ได้ทุกที่

จุดเด่นของ IC Markets คือการให้เทรดเดอร์เลือกแพลตฟอร์มตามสไตล์การเทรด ไม่ว่าจะเน้นเทคนิค, Scalping, หรือ Algo Trading อีกทั้งแพลตฟอร์มทั้งหมดมีความเสถียรสูงและเชื่อมต่อกับสภาพคล่องตลาดจริงแบบ ECN ทำให้เทรดเดอร์ไทยมั่นใจได้ในเรื่องความเร็วและความแม่นยำของคำสั่ง

ช่องทางฝาก–ถอนเงินกับ IC Markets

ระบบฝาก–ถอนของ IC Markets ถือเป็นจุดแข็งอีกด้านหนึ่งสำหรับเทรดเดอร์ไทย รองรับช่องทางหลากหลาย เช่น โอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, และ e-Wallet ยอดนิยมบางประเภท อย่างไรก็ตาม ความเร็วและค่าธรรมเนียมของแต่ละช่องทางขึ้นกับประเทศที่ลูกค้าลงทะเบียนบัญชี

  • การฝากเงิน – IC Markets ไม่คิดค่าธรรมเนียมฝากจากฝั่งโบรกเกอร์ แต่ผู้ให้บริการชำระเงินอาจมีค่าธรรมเนียมของตัวเอง การเข้าบัญชีมักรวดเร็ว โดยเฉพาะช่องทาง e-Wallet
  • การถอนเงิน – คำขอถอนส่วนใหญ่ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นขึ้นกับช่องทางรับเงิน เช่น ธนาคารอาจใช้ 2–5 วันทำการ ส่วน e-Wallet มักเร็วกว่าและสะดวกสำหรับเทรดเดอร์ไทย
  • ชื่อบัญชี – ควรใช้ชื่อบัญชี IC Markets ตรงกับชื่อบัญชีธนาคารหรือ e-Wallet เพื่อลดความล่าช้าและเอกสารเพิ่มเติม
เคล็ดลับการฝาก–ถอนเงิน
  • เก็บสลิปและเอกสาร KYC ไว้ให้พร้อมในช่วงเริ่มต้น
  • วางแผนการถอนเป็นรอบ ๆ แทนถอนเล็กบ่อยเกินไป
  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือตัวกลางทุกครั้งก่อนทำรายการจำนวนมาก

สิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าของ IC Markets

แม้ว่า IC Markets จะไม่มีโบนัสหรือโปรโมชันแบบตลอดปีเหมือนบางโบรกเกอร์อื่น ๆ แต่จุดแข็งของโบรกเกอร์อยู่ที่ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ และความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ ทำให้เทรดเดอร์ไทยได้รับประสบการณ์เทรดที่ยุติธรรมและคุ้มค่ามากกว่าการมองหาโบนัสชั่วคราว

  • สเปรดและคอมมิชชันโปร่งใส – เทรดเดอร์รู้ล่วงหน้าว่าค่าใช้จ่ายต่อออเดอร์เท่าไร ช่วยวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้ง่ายขึ้น
  • ความเร็วในการส่งคำสั่ง – ระบบ ECN ของ IC Markets ให้การส่งคำสั่งแทบไม่มีรีโควต ทำให้เหมาะกับ Scalper และ Day Trader
  • เงื่อนไขบัญชีที่ยืดหยุ่น – แม้ไม่มีโบนัส แต่เลเวอเรจสูงและบัญชีหลากหลายช่วยให้เทรดเดอร์ปรับสภาพการเทรดได้ตามความต้องการ
เคล็ดลับการใช้ประโยชน์จาก IC Markets
  • วางแผนกลยุทธ์ให้คำนวณค่าธรรมเนียมรวมทั้งสเปรดและคอมมิชชัน
  • ใช้เลเวอเรจและบัญชีให้เหมาะกับความเสี่ยง ไม่พึ่งโบนัสเพื่อเพิ่มทุน
  • เลือกช่วงเวลาตลาดที่เหมาะสมเพื่อเทรดคู่เงินที่สเปรดแคบที่สุด

ประสบการณ์ใช้งานจริงกับ IC Markets

จากมุมมองการใช้งานจริง IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์สายจริงจังและเน้นต้นทุนต่ำ ระบบเทรดมีความเสถียรสูงทั้งบน MT4, MT5 และ cTrader การส่งคำสั่งแทบไม่มีรีโควต ทำให้เหมาะกับ Scalper และ Day Trader ส่วนการฝาก–ถอนเงินส่วนใหญ่จะดำเนินการรวดเร็ว หากเอกสารยืนยันตัวตนครบถ้วน

สิ่งที่ต้องระวังคือ ความผันผวนของสเปรดในช่วงข่าวสำคัญหรือเวลาตลาดที่สภาพคล่องต่ำ นอกจากนี้ เทรดเดอร์ควรวางแผนการใช้เลเวอเรจอย่างรอบคอบ เพราะแม้ระบบจะมีความเสถียรสูง แต่การใช้เลเวอเรจเกินพอดีอาจทำให้พอร์ตเสี่ยงโดนปิดออเดอร์

มุมมองสรุปจากการใช้งาน
  • ระบบเทรด MT4, MT5 และ cTrader เสถียร เหมาะกับเทรดเดอร์รายย่อยและมืออาชีพ
  • ฝาก–ถอนเงินรวดเร็ว หากเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนครบ
  • สเปรดต่ำและคอมมิชชันโปร่งใส ทำให้ต้นทุนการเทรดเหมาะกับการ Scalping และเทรดถี่

IC Markets เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหนในปี 2025

หากสรุปให้เข้าใจง่าย IC Markets จะเหมาะกับเทรดเดอร์กลุ่มต่อไปนี้เป็นหลัก:

  • เทรดเดอร์สายจริงจัง / มืออาชีพ – IC Markets มีสเปรดต่ำและค่าคอมมิชชันโปร่งใส เหมาะกับ Day Trader, Scalper และเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนต่ำที่สุด
  • ผู้ที่ใช้ระบบอัตโนมัติบน MT4, MT5 หรือ cTrader – ระบบเทรดอัตโนมัติและ EA สามารถใช้งานได้เต็มที่บนแพลตฟอร์มที่รองรับ ทำให้สามารถย้ายระบบจากโบรกเกอร์อื่นมาได้ง่าย
  • เทรดเดอร์ที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่ง – ด้วยระบบเทรดแบบ ECN และความเสถียรสูง การเปิด–ปิดออเดอร์รวดเร็ว ลดรีโควต เหมาะกับการเทรดแบบความถี่สูง
  • ผู้ที่ต้องการโบรกเกอร์สากลที่มีการกำกับดูแลหลายเขต – IC Markets มีใบอนุญาตในหลายประเทศ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและการป้องกันความเสี่ยงด้านโบรกเกอร์

อย่างไรก็ตาม หากคุณมองหาโบรกเกอร์ที่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นต่อเนื่องเหมือนบางโบรกเกอร์รายย่อย IC Markets อาจไม่ใช่ตัวเลือกหลัก เพราะจุดแข็งของโบรกเกอร์อยู่ที่สเปรดต่ำ ความเร็ว และความเสถียรของแพลตฟอร์ม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IC Markets

ถาม: IC Markets ปลอดภัยและน่าเชื่อถือหรือไม่?
ตอบ: IC Markets มีใบอนุญาตกำกับจากหลายเขต เช่น ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส) ใช้ระบบบัญชีแยกเงินลูกค้ากับเงินบริษัท และมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้ถือว่ามีความน่าเชื่อถือในระดับสูงสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย แต่ความเสี่ยงจากการเทรดยังคงมีตามธรรมชาติของตลาด
ถาม: มือใหม่ควรเริ่มจากบัญชีประเภทไหนของ IC Markets?
ตอบ: สำหรับมือใหม่ แนะนำเริ่มจากบัญชี Standard เพราะมีสเปรดแข่งขันได้ และไม่ซับซ้อนมาก หากคุ้นเคยแล้ว สามารถพิจารณาใช้บัญชี Raw Spread สำหรับต้นทุนต่ำและเหมาะกับการเทรดแบบ Scalping
ถาม: ฝาก–ถอนกับ IC Markets ใช้เวลานานไหม?
ตอบ: การฝากเงินส่วนใหญ่จะเข้าบัญชีทันทีหรือไม่กี่ชั่วโมง ขึ้นกับช่องทาง ส่วนการถอนเงินมักใช้ 1–3 วันทำการ ขึ้นอยู่กับธนาคารหรือ e-Wallet ที่ใช้ หากเอกสารครบ กระบวนการโดยรวมจะค่อนข้างราบรื่น
ถาม: IC Markets มีโบนัสหรือโปรโมชั่นไหม?
ตอบ: IC Markets โดยทั่วไปไม่มีโบนัสต้อนรับหรือโปรโมชั่นแบบต่อเนื่องเหมือนบางโบรกเกอร์รายย่อย จุดแข็งของโบรกเกอร์อยู่ที่สเปรดต่ำ ความเร็วในการส่งคำสั่ง และความเสถียรของแพลตฟอร์ม
ถาม: IC Markets รองรับ EA และกลยุทธ์อัตโนมัติไหม?
ตอบ: IC Markets รองรับการใช้งาน EA และระบบอัตโนมัติบนแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ cTrader เทรดเดอร์สามารถนำระบบที่มีอยู่มาใช้ได้ แต่ควรทดสอบบนบัญชีทดลองหรือบัญชีขนาดเล็กก่อน เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ทำงานได้ตามที่ต้องการ

สรุปรีวิว IC Markets ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

โดยภาพรวมในปี 2025 IC Markets ยังคงเป็นโบรกเกอร์ที่ควรอยู่ในลิสต์พิจารณาของเทรดเดอร์ไทย ด้วยชื่อเสียงด้านสเปรดต่ำ ระบบเทรดเสถียร และการรองรับแพลตฟอร์มมาตรฐานอย่าง MT4, MT5 และ cTrader บัญชีมีความยืดหยุ่นสำหรับผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์มืออาชีพ จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ความรวดเร็วในการส่งคำสั่งและโครงสร้าง ECN ที่เหมาะกับการเทรดแบบ Day Trading หรือ Scalping

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรระวังการขยายสเปรดในช่วงข่าวแรง และวางแผนการใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง เนื่องจากโบรกเกอร์ไม่เน้นโบนัสหรือโปรโมชั่นต่อเนื่องเหมือนโบรกเกอร์รายย่อยบางเจ้า ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงและวินัยในการเทรดจึงสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง IC Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง หากเข้าใจจุดแข็งและข้อจำกัดของโบรกเกอร์รายนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว FOREX.com โบรกเกอร์สหรัฐฯ เน้นมาตรฐานและความปลอดภัย ปี 2025

FOREX.com เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับสากลภายใต้กลุ่ม StoneX Group Inc. บริษัทการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และมีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 20 ปี ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์อื่น ๆ รวมมากกว่า 5,000 สัญลักษณ์ โดยเน้นภาพลักษณ์ “โบรกเกอร์สายมาตรฐานตะวันตก” ที่ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ ความโปร่งใส และคุณภาพแพลตฟอร์มมากกว่าการแข่งขันด้วยโบนัสหรือเลเวอเรจสูง

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว Saxo Bank โบรกเกอร์สายหุ้นและการลงทุนระดับพรีเมียม ปี 2025

Saxo Bank เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนจากเดนมาร์กที่ขยายบริการสู่การเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งฟอเร็กซ์ หุ้นต่างประเทศ ดัชนี CFD พันธบัตร ETF ฟิวเจอร์ส และผลิตภัณฑ์ลงทุนอีกจำนวนมาก จุดต่างสำคัญของ Saxo Bank เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั่วไปคือ บริษัทมีสถานะเป็น “ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบ” ไม่ใช่แค่โบรกเกอร์ในเชิงเทคนิค ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินสากล มากกว่าบริษัทโบรกเกอร์ขนาดเล็ก

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว XTB 2025: โบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดฟอเร็กซ์และ CFDs สำหรับเทรดเดอร์ไทย

XTB เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 และมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการให้บริการเทรดทั่วโลก จุดเด่นของ XTB คือการเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย ตัวเลือกบัญชีที่หลากหลาย และการเลือกตลาดที่ครอบคลุม XTB ได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย เนื่องจากมีการควบคุมที่เข้มงวดและบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว IG โบรกเกอร์ระดับโลก ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

IG หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ IG Markets เป็นโบรกเกอร์จากสหราชอาณาจักรที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1974 ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จุดขายหลักของ IG ไม่ใช่โบนัสหรือเลเวอเรจสูงแบบโบรกเกอร์สายเอเชีย แต่คือความแข็งแรงด้านการกำกับดูแล ความโปร่งใสของต้นทุน และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงคริปโตบางประเภท

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

AvaTrade 2025 รีวิว: การกำกับดูแล ความปลอดภัย และข้อได้เปรียบในการเทรด

AvaTrade is a globally recognized forex and CFD broker established in 2006. With a presence in various regions, including Southeast Asia and Thailand, AvaTrade stands out for its robust regulatory framework and comprehensive trading options. The broker is regulated by multiple international bodies, ensuring a high level of security for traders. AvaTrade's appeal lies in its wide range of account types, user-friendly platforms, and competitive trading conditions.

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว FP Markets โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

FP Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD สัญชาติออสเตรเลียที่อยู่ในตลาดมามากกว่า 20 ปี จุดขายหลักคือการเป็นโบรกเกอร์สาย ECN/Raw ที่ให้สเปรดต่ำ เลเวอเรจสูงสุดถึงประมาณ 1:500 ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลหลายแห่ง เช่น ASIC, CySEC และหน่วยงานอื่นในกลุ่มบริษัท ปัจจุบัน FP Markets มีเว็บไซต์และซัพพอร์ตภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก–ถอนเป็นสกุล THB ผ่านธนาคารไทยและผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาค ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →