IC Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ – ภาพรวมสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025
IC Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำระดับโลก มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลก รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย จุดเด่นของ IC Markets คือสเปรดต่ำมาก การส่งคำสั่งรวดเร็ว และบัญชีหลากหลายสำหรับทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและมืออาชีพ ทำให้ชื่อเสียงของ IC Markets เป็นที่รู้จักในกลุ่มเทรดเดอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
ในปี 2025 IC Markets ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader ครอบคลุมการเทรด Forex ทองคำ ดัชนี หุ้น CFD และพลังงาน สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่มองหาโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ ระบบเทรดเสถียร และมีตัวเลือกบัญชีหลากหลาย IC Markets ถือเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง
- ก่อตั้งปี 2007 มีชื่อเสียงในตลาดรายย่อยมาหลายปี
- ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, CySEC และ SCB + ระบบแยกเงินลูกค้า
- บัญชีหลากหลาย ตั้งแต่ Standard, Raw Spread, cTrader จนถึง Islamic
- สเปรดต่ำและรวดเร็ว เหมาะกับเทรดเดอร์สาย Scalping
- จุดขายหลัก: ระบบเทรดเสถียร, สเปรดต่ำ และตัวเลือกแพลตฟอร์ม MT4/MT5/cTrader
การกำกับดูแลและความปลอดภัยของ IC Markets
สำหรับเทรดเดอร์ไทย สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบว่า “โบรกเกอร์นี้น่าเชื่อถือและปลอดภัยหรือไม่” IC Markets อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินชั้นนำหลายแห่ง เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), CySEC (ไซปรัส) และ FSA (เซนต์วินเซนต์) ทำให้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านเงินทุน การรายงานบัญชี และการคุ้มครองเงินลูกค้าอย่างเข้มงวด
IC Markets ใช้ระบบบัญชีเงินลูกค้าแยกออกจากบัญชีบริษัทอย่างชัดเจน (Segregated Accounts) เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้เงินทุนของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection) สำหรับบัญชีบางประเภท เพื่อให้ลูกค้าไม่สูญเสียเงินเกินจำนวนที่ฝากในสภาวะตลาดผันผวน
- ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, CySEC และ FSA ทำให้เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
- ใช้ระบบบัญชีแยกเงินลูกค้าและเงินบริษัทอย่างชัดเจน
- บางบัญชีมีการคุ้มครองยอดติดลบ (Negative Balance Protection)
- อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงหลักยังขึ้นอยู่กับ “ภาวะตลาด + การใช้เลเวอเรจของเราเอง”
ประเภทบัญชีเทรดของ IC Markets
IC Markets มีการออกแบบบัญชีให้ครอบคลุมกลุ่มเทรดเดอร์หลายระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นที่ต้องการลงทุนด้วยทุนไม่มาก ไปจนถึงเทรดเดอร์มืออาชีพที่เน้นสเปรดต่ำ ใช้เลเวอเรจสูง หรือเทรดด้วยกลยุทธ์อัตโนมัติ ประเภทบัญชีหลัก ๆ มีดังนี้
- บัญชี Standard – เป็นบัญชีพื้นฐาน เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ ใช้สเปรดแบบลอยตัวและไม่คิดค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการเทรดด้วยล็อตมาตรฐาน
- บัญชี Raw Spread – ให้สเปรดต่ำมาก แต่คิดค่าคอมมิชชั่นแยก เหมาะสำหรับ Day Trader หรือ Scalper ที่ต้องการลดต้นทุนต่อการเทรดและเปิดปิดออเดอร์บ่อย
- บัญชี cTrader – สำหรับผู้ที่ชอบใช้แพลตฟอร์ม cTrader เน้นการส่งคำสั่งรวดเร็ว และสามารถใช้งาน EA หรือกลยุทธ์อัตโนมัติได้เต็มรูปแบบ
- บัญชี Islamic – เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักศาสนาอิสลาม โดยไม่มีดอกเบี้ยสวอประหว่างคืนตำแหน่งข้ามคืน
ทุกบัญชีของ IC Markets สามารถเลือกแพลตฟอร์ม MT4, MT5 หรือ cTrader ได้ตามความถนัด เทรดเดอร์ควรพิจารณาทั้งเรื่องประเภทบัญชี สเปรด ค่าคอมมิชชั่น และเลเวอเรจให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตนเอง
- มือใหม่ / ทุนไม่มาก: บัญชี Standard เป็นจุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยและเข้าใจง่าย
- เทรดเดอร์ที่เน้นสเปรดต่ำและ Scalping: บัญชี Raw Spread จะเหมาะที่สุด
- ผู้สนใจเทรดตามหลักศาสนาอิสลามหรือใช้ cTrader: เลือกบัญชี Islamic หรือ cTrader ตามความถนัด
ต้นทุนการเทรดและสเปรดของ IC Markets
ต้นทุนการเทรดกับ IC Markets ประกอบด้วยสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่าสว็อปสำหรับการถือข้ามคืน สำหรับบัญชี Standard จะไม่มีค่าคอมมิชชั่นแยก ใช้เพียงสเปรดลอยตัวซึ่งถือว่ามีความแข่งขันสูง ส่วนบัญชี Raw Spread จะมีสเปรดต่ำมากและคิดค่าคอมมิชชั่นแยก เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้น Scalping หรือ Day Trading ที่ต้องการลดต้นทุนต่อการเทรดแต่ละครั้ง
เทรดเดอร์ควรสังเกต “สเปรดจริง” ในช่วงเวลาที่เข้าเทรดบ่อยที่สุด เช่น ช่วงตลาดเอเชียและยุโรป หรือช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เพราะต้นทุนจริงอาจสูงกว่าตัวเลขที่โบรกเกอร์โฆษณาในช่วงเวลาที่สภาพคล่องสูง นอกจากนี้การใช้เลเวอเรจสูงควรคำนวณต้นทุนรวมอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ค่าธรรมเนียมกัดกำไรจนเกินไป
- ตรวจสอบสเปรดจริงของคู่เงินที่เทรดบ่อยในช่วงเวลาที่เข้าเทรด
- เปรียบเทียบต้นทุนรวมระหว่างบัญชี Standard และ Raw Spread รวมถึงค่าคอมมิชชั่น
- รวมค่าสว็อปสำหรับผู้ถือออร์เดอร์ข้ามคืนในการวางแผนบริหารเงินทุน
- พิจารณาการใช้เลเวอเรจร่วมกับต้นทุนทั้งหมด เพื่อประเมินความเสี่ยงและกำไรที่แท้จริง
แพลตฟอร์มการเทรดของ IC Markets
IC Markets ใช้แพลตฟอร์ม MetaTrader เป็นหลัก ทั้ง MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทั่วโลกคุ้นเคย นอกจากนี้ยังมี cTrader สำหรับผู้ที่ต้องการเงื่อนไขแบบ ECN และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ลึกขึ้น ทำให้ IC Markets เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและเทรดเดอร์มืออาชีพ
- MT4 – เหมาะกับเทรดเดอร์สายเทคนิค ต้องการอินดิเคเตอร์และ EA จำนวนมาก อินเทอร์เฟซคุ้นมือ ใช้งานง่าย
- MT5 – เพิ่ม Timeframe, ประเภทคำสั่ง และสินทรัพย์ให้หลากหลายขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ใหม่ ๆ และมองตลาดระยะยาว
- cTrader – เหมาะกับสาย ECN เน้นการเปิดปิดออเดอร์เร็ว มี Depth of Market (DOM) และฟังก์ชัน Algo Trading รองรับ
- Mobile & WebTrader – รองรับการเทรดผ่านแอปมือถือและเว็บเบราว์เซอร์ ติดตามพอร์ตและจัดการออเดอร์ได้ทุกที่
จุดเด่นของ IC Markets คือการให้เทรดเดอร์เลือกแพลตฟอร์มตามสไตล์การเทรด ไม่ว่าจะเน้นเทคนิค, Scalping, หรือ Algo Trading อีกทั้งแพลตฟอร์มทั้งหมดมีความเสถียรสูงและเชื่อมต่อกับสภาพคล่องตลาดจริงแบบ ECN ทำให้เทรดเดอร์ไทยมั่นใจได้ในเรื่องความเร็วและความแม่นยำของคำสั่ง
ช่องทางฝาก–ถอนเงินกับ IC Markets
ระบบฝาก–ถอนของ IC Markets ถือเป็นจุดแข็งอีกด้านหนึ่งสำหรับเทรดเดอร์ไทย รองรับช่องทางหลากหลาย เช่น โอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, และ e-Wallet ยอดนิยมบางประเภท อย่างไรก็ตาม ความเร็วและค่าธรรมเนียมของแต่ละช่องทางขึ้นกับประเทศที่ลูกค้าลงทะเบียนบัญชี
- การฝากเงิน – IC Markets ไม่คิดค่าธรรมเนียมฝากจากฝั่งโบรกเกอร์ แต่ผู้ให้บริการชำระเงินอาจมีค่าธรรมเนียมของตัวเอง การเข้าบัญชีมักรวดเร็ว โดยเฉพาะช่องทาง e-Wallet
- การถอนเงิน – คำขอถอนส่วนใหญ่ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นขึ้นกับช่องทางรับเงิน เช่น ธนาคารอาจใช้ 2–5 วันทำการ ส่วน e-Wallet มักเร็วกว่าและสะดวกสำหรับเทรดเดอร์ไทย
- ชื่อบัญชี – ควรใช้ชื่อบัญชี IC Markets ตรงกับชื่อบัญชีธนาคารหรือ e-Wallet เพื่อลดความล่าช้าและเอกสารเพิ่มเติม
- เก็บสลิปและเอกสาร KYC ไว้ให้พร้อมในช่วงเริ่มต้น
- วางแผนการถอนเป็นรอบ ๆ แทนถอนเล็กบ่อยเกินไป
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือตัวกลางทุกครั้งก่อนทำรายการจำนวนมาก
สิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าของ IC Markets
แม้ว่า IC Markets จะไม่มีโบนัสหรือโปรโมชันแบบตลอดปีเหมือนบางโบรกเกอร์อื่น ๆ แต่จุดแข็งของโบรกเกอร์อยู่ที่ค่าธรรมเนียมต่ำ สเปรดแคบ และความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ ทำให้เทรดเดอร์ไทยได้รับประสบการณ์เทรดที่ยุติธรรมและคุ้มค่ามากกว่าการมองหาโบนัสชั่วคราว
- สเปรดและคอมมิชชันโปร่งใส – เทรดเดอร์รู้ล่วงหน้าว่าค่าใช้จ่ายต่อออเดอร์เท่าไร ช่วยวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้ง่ายขึ้น
- ความเร็วในการส่งคำสั่ง – ระบบ ECN ของ IC Markets ให้การส่งคำสั่งแทบไม่มีรีโควต ทำให้เหมาะกับ Scalper และ Day Trader
- เงื่อนไขบัญชีที่ยืดหยุ่น – แม้ไม่มีโบนัส แต่เลเวอเรจสูงและบัญชีหลากหลายช่วยให้เทรดเดอร์ปรับสภาพการเทรดได้ตามความต้องการ
- วางแผนกลยุทธ์ให้คำนวณค่าธรรมเนียมรวมทั้งสเปรดและคอมมิชชัน
- ใช้เลเวอเรจและบัญชีให้เหมาะกับความเสี่ยง ไม่พึ่งโบนัสเพื่อเพิ่มทุน
- เลือกช่วงเวลาตลาดที่เหมาะสมเพื่อเทรดคู่เงินที่สเปรดแคบที่สุด
ประสบการณ์ใช้งานจริงกับ IC Markets
จากมุมมองการใช้งานจริง IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์สายจริงจังและเน้นต้นทุนต่ำ ระบบเทรดมีความเสถียรสูงทั้งบน MT4, MT5 และ cTrader การส่งคำสั่งแทบไม่มีรีโควต ทำให้เหมาะกับ Scalper และ Day Trader ส่วนการฝาก–ถอนเงินส่วนใหญ่จะดำเนินการรวดเร็ว หากเอกสารยืนยันตัวตนครบถ้วน
สิ่งที่ต้องระวังคือ ความผันผวนของสเปรดในช่วงข่าวสำคัญหรือเวลาตลาดที่สภาพคล่องต่ำ นอกจากนี้ เทรดเดอร์ควรวางแผนการใช้เลเวอเรจอย่างรอบคอบ เพราะแม้ระบบจะมีความเสถียรสูง แต่การใช้เลเวอเรจเกินพอดีอาจทำให้พอร์ตเสี่ยงโดนปิดออเดอร์
- ระบบเทรด MT4, MT5 และ cTrader เสถียร เหมาะกับเทรดเดอร์รายย่อยและมืออาชีพ
- ฝาก–ถอนเงินรวดเร็ว หากเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนครบ
- สเปรดต่ำและคอมมิชชันโปร่งใส ทำให้ต้นทุนการเทรดเหมาะกับการ Scalping และเทรดถี่
IC Markets เหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหนในปี 2025
หากสรุปให้เข้าใจง่าย IC Markets จะเหมาะกับเทรดเดอร์กลุ่มต่อไปนี้เป็นหลัก:
- เทรดเดอร์สายจริงจัง / มืออาชีพ – IC Markets มีสเปรดต่ำและค่าคอมมิชชันโปร่งใส เหมาะกับ Day Trader, Scalper และเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนต่ำที่สุด
- ผู้ที่ใช้ระบบอัตโนมัติบน MT4, MT5 หรือ cTrader – ระบบเทรดอัตโนมัติและ EA สามารถใช้งานได้เต็มที่บนแพลตฟอร์มที่รองรับ ทำให้สามารถย้ายระบบจากโบรกเกอร์อื่นมาได้ง่าย
- เทรดเดอร์ที่เน้นความเร็วในการส่งคำสั่ง – ด้วยระบบเทรดแบบ ECN และความเสถียรสูง การเปิด–ปิดออเดอร์รวดเร็ว ลดรีโควต เหมาะกับการเทรดแบบความถี่สูง
- ผู้ที่ต้องการโบรกเกอร์สากลที่มีการกำกับดูแลหลายเขต – IC Markets มีใบอนุญาตในหลายประเทศ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและการป้องกันความเสี่ยงด้านโบรกเกอร์
อย่างไรก็ตาม หากคุณมองหาโบรกเกอร์ที่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นต่อเนื่องเหมือนบางโบรกเกอร์รายย่อย IC Markets อาจไม่ใช่ตัวเลือกหลัก เพราะจุดแข็งของโบรกเกอร์อยู่ที่สเปรดต่ำ ความเร็ว และความเสถียรของแพลตฟอร์ม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IC Markets
สรุปรีวิว IC Markets ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย
โดยภาพรวมในปี 2025 IC Markets ยังคงเป็นโบรกเกอร์ที่ควรอยู่ในลิสต์พิจารณาของเทรดเดอร์ไทย ด้วยชื่อเสียงด้านสเปรดต่ำ ระบบเทรดเสถียร และการรองรับแพลตฟอร์มมาตรฐานอย่าง MT4, MT5 และ cTrader บัญชีมีความยืดหยุ่นสำหรับผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์มืออาชีพ จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ความรวดเร็วในการส่งคำสั่งและโครงสร้าง ECN ที่เหมาะกับการเทรดแบบ Day Trading หรือ Scalping
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรระวังการขยายสเปรดในช่วงข่าวแรง และวางแผนการใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง เนื่องจากโบรกเกอร์ไม่เน้นโบนัสหรือโปรโมชั่นต่อเนื่องเหมือนโบรกเกอร์รายย่อยบางเจ้า ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงและวินัยในการเทรดจึงสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง IC Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง หากเข้าใจจุดแข็งและข้อจำกัดของโบรกเกอร์รายนี้
