ปรัชญา วิเศษ 04/12/2025

รีวิว FP Markets โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

ปรัชญา วิเศษ

FP Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD – ภาพรวมสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

FP Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD สัญชาติออสเตรเลียที่อยู่ในตลาดมามากกว่า 20 ปี จุดขายหลักคือการเป็นโบรกเกอร์สาย ECN/Raw ที่ให้สเปรดต่ำ เลเวอเรจสูงสุดถึงประมาณ 1:500 ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลหลายแห่ง เช่น ASIC, CySEC และหน่วยงานอื่นในกลุ่มบริษัท ปัจจุบัน FP Markets มีเว็บไซต์และซัพพอร์ตภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก–ถอนเป็นสกุล THB ผ่านธนาคารไทยและผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาค ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

ภาพรวมแล้ว FP Markets ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ “ต้นทุนต่ำ + แพลตฟอร์มครบ” เพราะรองรับทั้ง MT4, MT5, cTrader และ TradingView รวมถึง Iress สำหรับผู้ที่เทรดหุ้นต่างประเทศระดับมืออาชีพ จุดนี้ทำให้ FP Markets กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกพูดถึงบ่อยเมื่อพูดเรื่องโบรกเกอร์สเปรดต่ำและรองรับกลยุทธ์ที่อ่อนไหวต่อค่าธรรมเนียมอย่าง Scalping และ EA

สรุป FP Markets แบบสั้น ๆ ก่อนอ่านรีวิวเต็ม
  • โบรกเกอร์จากออสเตรเลีย อายุเกิน 20 ปี มีหลายใบอนุญาตระดับสากล
  • มีทั้งบัญชี Standard (ไม่คิดค่าคอมมิชชัน) และ Raw ECN (สเปรด 0.0 + ค่าคอม)
  • รองรับ MT4, MT5, cTrader, TradingView และ Iress สำหรับหุ้น/CFD ระดับสูง
  • มีเว็บไซต์ภาษาไทย ซัพพอร์ตหลายภาษา และรองรับการฝาก THB ผ่านช่องทางท้องถิ่นสำหรับลูกค้าไทย
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มองหาโบรกเกอร์สเปรดต่ำ ใช้ EA/Scalping และต้องการแพลตฟอร์มหลากหลาย

การกำกับดูแลและความปลอดภัยของ FP Markets

FP Markets ทำงานภายใต้โครงสร้าง “กลุ่มบริษัท” โดยมีใบอนุญาตหลักจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส) รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ เช่น FSCA, FSA (Seychelles), CMA และ FSC แล้วแต่เขตให้บริการ สำหรับลูกค้าไทย ส่วนใหญ่มักจะถูกดูแลผ่านบริษัทนอกออสเตรเลียที่ให้เลเวอเรจสูงถึง 1:500 เพื่อแข่งขันกับโบรกเกอร์ต่างประเทศรายอื่นในตลาดเอเชีย

เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บในบัญชีแยกจากเงินของบริษัท (Segregated Accounts) และมีมาตรการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพคล่องผ่านผู้ให้สภาพคล่องหลายราย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไทยต้องเข้าใจว่า การที่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตระดับสากล ไม่ได้แปลว่ามีใบอนุญาตโดยตรงจากหน่วยงานกำกับของไทย หากมีข้อพิพาททางกฎหมายจะต้องอ้างอิงตามประเทศที่บริษัทสังกัดอยู่เป็นหลัก

สิ่งที่เทรดเดอร์ไทยควรตรวจสอบก่อนเปิดบัญชีกับ FP Markets
  • บัญชีของคุณถูกเปิดภายใต้บริษัทลูกในเขตอำนาจใด (ASIC, CySEC หรือ SVG ฯลฯ)
  • เลเวอเรจสูงสุดที่ได้รับ กับระดับการป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection)
  • เงื่อนไขทางกฎหมายและข้อจำกัดสำหรับลูกค้าไทย ในกรณีมีข้อร้องเรียนหรือข้อพิพาท

ประเภทบัญชีเทรดของ FP Markets

สำหรับสายฟอเร็กซ์บน MT4/MT5 และ cTrader โครงสร้างบัญชีของ FP Markets ค่อนข้างตรงไปตรงมา คือมี 2 แบบหลัก ได้แก่ บัญชี Standard และบัญชี Raw ทั้งสองแบบใช้เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นราว 100 ดอลลาร์หรือเทียบเท่า และสามารถเลือกสกุลเงินพื้นฐานได้หลายสกุล รวมถึง THB สำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียบางส่วน

  • บัญชี Standard (MT4/MT5/cTrader) – ไม่คิดค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียมทั้งหมดรวมอยู่ในสเปรด สเปรดคู่หลักเริ่มต้นราว 1.0 pip เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่–ระดับกลางที่อยากคุมต้นทุนแบบเข้าใจง่าย
  • บัญชี Raw (MT4/MT5/cTrader/TradingView) – สเปรดเริ่มต้นจาก 0.0 pip แล้วบวกค่าคอมมิชชันราว 6 ดอลลาร์ต่อรอบ/ล็อตมาตรฐาน เหมาะมากสำหรับสาย Scalping และ EA ที่ต้องการต้นทุนต่อออเดอร์ต่ำที่สุด
  • บัญชีอิสลาม (Islamic/Swap-free) – ให้บริการบนบัญชีฟอเร็กซ์บางประเภท โดยเปลี่ยนค่าดอกเบี้ย Swap เป็นค่า Admin Fee แทน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักการ Sharia

ต้นทุนการเทรดและสเปรดของ FP Markets

จุดเด่นที่ทำให้ FP Markets ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ “ต้นทุนต่ำ” คือสเปรดของบัญชี Raw ECN ที่เริ่มต้นจาก 0.0 pip โดยจะเก็บค่าคอมมิชชันรอบละประมาณ 6 ดอลลาร์ต่อล็อตมาตรฐาน ซึ่งเมื่อรวมแล้วต้นทุนต่อรอบเทรดยังถือว่าแข่งขันได้กับโบรกเกอร์ ECN ชั้นนำเจ้าอื่นในตลาด

บัญชี Standard แม้สเปรดจะเริ่มต้นสูงกว่า (ราว 1.0 pip ในคู่หลัก) แต่ไม่มีค่าคอมมิชชัน ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่อยากมานั่งคำนวณค่าคอมเพิ่มเติม บางครั้งถ้าคุณเทรดไม่ถี่มาก บัญชี Standard ก็ไม่ได้แพงกว่าอย่างที่คิด ส่วนต้นทุนอื่น ๆ เช่นค่าธรรมเนียมฝาก–ถอน FP Markets โดยทั่วไปจะไม่คิดค่าธรรมเนียมฝั่งโบรกเกอร์ แต่ค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินยังคงมีตามปกติ

วิธีประเมินต้นทุนจริงของคุณกับ FP Markets
  • บันทึกสเปรดจริงในช่วงเวลาที่คุณเทรดบ่อย โดยเฉพาะคู่ที่ใช้หนัก เช่น XAUUSD, EURUSD
  • รวม “สเปรด + ค่าคอมมิชชัน” ต่อรอบเข้า–ออก เพื่อดูต้นทุนจริงก่อนเลือกบัญชี
  • ทดสอบดู Slippage ในช่วงข่าวสำคัญ ถ้ากลยุทธ์ของคุณต้องผ่านช่วงเวลาข่าวแรงเป็นประจำ

แพลตฟอร์มการเทรดของ FP Markets

FP Markets ถือว่าให้แพลตฟอร์มค่อนข้างครบสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025 ทั้ง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader, TradingView และ Iress สำหรับหุ้น/CFD โดยแพลตฟอร์มหลักที่คนไทยใช้กันมากที่สุดยังคงเป็น MT4/MT5 แต่การมี cTrader และ TradingView เพิ่มเข้ามา ทำให้โบรกเกอร์ตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่ต้องการประสบการณ์อินเตอร์เฟซที่ทันสมัยขึ้น

  • MT4/MT5 – เหมาะกับสาย EA, อินดิเคเตอร์เสริม และเทรดเดอร์ทั่วไปที่คุ้นเคยอยู่แล้ว มีเครื่องมือวิเคราะห์ครบและรองรับ Timeframe หลายแบบ
  • cTrader – อินเตอร์เฟซทันสมัยกว่า MT4/MT5 เล็กน้อย ฟังก์ชัน Depth of Market ชัดเจน เหมาะกับสาย Scalping และคนที่อยากเห็นข้อมูลสภาพคล่องเชิงลึก
  • TradingView – ใช้งานกราฟและเครื่องมือวิเคราะห์ของ TradingView แล้วเชื่อมคำสั่งผ่าน FP Markets โดยเฉพาะบัญชี Raw ที่รองรับ TradingView ทำให้สะดวกสำหรับคนที่ใช้ TradingView เป็นหลักอยู่แล้ว
  • Iress – แพลตฟอร์มสำหรับเทรดหุ้นและ CFD หุ้นแบบมืออาชีพ เหมาะกับคนที่ต้องการฟังก์ชันลึกด้านหุ้นมากกว่าฟอเร็กซ์

การฝากและถอนเงินของ FP Markets สำหรับผู้ใช้ไทย

FP Markets รองรับช่องทางฝาก–ถอนค่อนข้างหลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต โอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ e-wallets อย่าง Skrill, Neteller, PayPal ไปจนถึงคริปโต และในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทย ยังมีช่องทางฝาก THB ผ่านธนาคารท้องถิ่น หรือผู้ให้บริการชำระเงินภูมิภาค เช่น PlusDebit, XPay ฯลฯ ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมและทำให้การฝากเงินรวดเร็วขึ้นสำหรับคนไทย

โดยทั่วไป โบรกเกอร์จะไม่คิดค่าธรรมเนียมฝาก–ถอนฝั่ง FP Markets เอง แต่ค่าธรรมเนียมของธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินยังคงมีอยู่ และเวลาการถอนมักอยู่ที่ประมาณ 1–3 วันทำการ ในกรณีถอนกลับไปยังบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ เทรดเดอร์ไทยจึงควรวางแผนการถอนล่วงหน้า และทดสอบถอนยอดเล็กก่อนเสมอเมื่อเริ่มใช้โบรกเกอร์ใหม่

ข้อแนะนำเรื่องฝาก–ถอนสำหรับคนไทยที่ใช้ FP Markets
  • ใช้ชื่อ–นามสกุลให้ตรงกับบัญชีธนาคารทุกตัวอักษร เพื่อลดโอกาสการตีกลับของคำขอถอน
  • ทดลองถอนยอดเล็กก่อน เมื่อเริ่มใช้โบรกเกอร์ใหม่หรือเปลี่ยนวิธีการถอน
  • หากใช้ THB ฝากผ่านช่องทางท้องถิ่น ให้ตรวจสอบเรทแลกเปลี่ยนและเงื่อนไขขั้นต่ำของแต่ละช่องทางด้วย

โบนัสและโปรโมชันของ FP Markets ในปี 2025

FP Markets ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่ม “โบรกเกอร์สายโบนัสจัดหนัก” แบบโบรกเกอร์เอเชียบางเจ้า โปรโมชันที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเครดิตบางส่วน หรือสิทธิพิเศษด้านเครื่องมือเทรด เช่น VPS ฟรีเมื่อมียอดฝากขั้นต่ำ หรือเทรดครบตามปริมาณล็อตที่กำหนด มากกว่าจะเป็นโบนัสไม่ต้องฝากหรือโบนัสเงินฝากเปอร์เซ็นต์สูง

ข้อดีของโครงสร้างแบบนี้คือ เงื่อนไขโดยรวมจะไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่อง “ข้อกำหนดล็อตเทรดเพื่อปลดล็อกโบนัส” แต่สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่คุ้นเคยกับโบรกเกอร์ที่แจกโบนัสบ่อย ๆ FP Markets อาจดู “เรียบ ๆ” ในแง่โปรโมชันเมื่อเทียบกัน

มุมมองเกี่ยวกับโบนัสของ FP Markets สำหรับคนไทย
  • เหมาะกับคนที่ไม่ได้เลือกโบรกเกอร์จากโบนัสเป็นอันดับแรก
  • ลดความเสี่ยงจากการเทรดเพียงเพื่อทำล็อตให้ถึงเงื่อนไขของโบนัส
  • ถ้าคุณต้องการใช้โบนัสช่วยเพิ่มขนาดพอร์ต อาจต้องพิจารณาโบรกเกอร์อื่นที่เน้นโปรโมชันมากกว่า

ประสบการณ์ใช้งานจริงของ FP Markets ในมุมเทรดเดอร์ไทย

ในเชิงภาพรวม เสียงรีวิวจากต่างประเทศมักยกให้ FP Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์สเปรดต่ำสำหรับสาย Scalping และ EA ด้วยสเปรด Raw ECN ที่เริ่มจาก 0.0 pip และค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ รวมถึงความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์และการเชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องหลายราย

สำหรับเทรดเดอร์ไทย จุดที่ได้เปรียบคือมีเว็บไซต์และคอนเทนต์ภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก THB ทำให้การเริ่มต้นใช้งานไม่ “น่ากลัว” เท่าโบรกเกอร์ที่มีแต่ภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม การซัพพอร์ตภาษาไทยอาจไม่ได้ครอบคลุม 24 ชั่วโมงทุกช่องทางเหมือนโบรกเกอร์ที่โฟกัสตลาดไทยเต็มตัว ดังนั้นคนที่เทรดหนัก ๆ ช่วงดึกหรือมีคำถามเชิงเทคนิคเฉพาะทาง อาจยังต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับทีมซัพพอร์ตต่างประเทศอยู่บ้าง

จุดสังเกตจากประสบการณ์ใช้งาน FP Markets
  • สเปรดและค่าคอมโดยรวมอยู่ในระดับแข่งได้สำหรับสายต้นทุนต่ำ
  • แพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับคนที่ไม่อยากผูกกับ MT4/MT5 อย่างเดียว
  • ส่วนเรื่องโบนัสและความ “ไทยจ๋า” อาจไม่จัดเต็มเท่าโบรกเกอร์ที่โฟกัสตลาดไทยโดยเฉพาะ

FP Markets เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยแบบไหนในปี 2025

จากโครงสร้างบัญชี ต้นทุน และแพลตฟอร์มที่ให้บริการ FP Markets ดูจะเหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มีประสบการณ์มาระดับหนึ่งแล้ว มากกว่ามือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องเลเวอเรจและต้นทุนต่อออเดอร์อย่างชัดเจน

  • เทรดเดอร์สาย Scalping / EA ที่ต้องการสเปรดต่ำและค่าคอมชัดเจน
  • ผู้ที่ชอบทดลองแพลตฟอร์มหลายแบบ ทั้ง MT4, MT5, cTrader และ TradingView ในโบรกเกอร์เดียว
  • คนที่ต้องการฝาก–ถอน THB ได้สะดวก แต่ยอมรับได้ว่าโบรกเกอร์ไม่ได้มีใบอนุญาตในไทยโดยตรง
  • นักลงทุนที่อาจขยายไปเทรดหุ้น/CFD ผ่าน Iress ในอนาคต โดยเริ่มจากฟอเร็กซ์บน MT4/MT5 ก่อน
อาจไม่เหมาะกับ:
- มือใหม่ 0 พื้นฐานที่ต้องการโบรกเกอร์มีคอร์สสอนภาษาไทยครบชุด
- เทรดเดอร์ที่เน้นโบนัสไม่ต้องฝากหรือโบนัสเงินฝากเปอร์เซ็นต์สูงเป็นหลัก
- คนที่ต้องการโบรกเกอร์มีสถานะใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับของไทยเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FP Markets

ถาม: FP Markets ปลอดภัยไหม?
ตอบ: FP Markets อยู่ภายใต้การกำกับของหลายหน่วยงาน เช่น ASIC, CySEC และอื่น ๆ ใช้ระบบแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท แต่สำหรับลูกค้าไทย บัญชีมักจะอยู่ภายใต้บริษัทนอกออสเตรเลีย จึงควรอ่านรายละเอียดบริษัทลูกที่คุณเปิดบัญชีด้วยเสมอ
ถาม: FP Markets มีโบนัสสำหรับคนไทยไหม?
ตอบ: FP Markets ไม่ได้เน้นโบนัสหนัก ๆ แบบโบรกเกอร์บางเจ้า โปรโมชันที่มีมักจะเป็นสิทธิพิเศษด้านเครื่องมือหรือ VPS แทนโบนัสไม่ต้องฝากหรือโบนัสเงินฝากเปอร์เซ็นต์สูง ถ้าคุณเลือกโบรกเกอร์จากโบนัสเป็นหลัก อาจต้องมองหาเจ้าอื่นประกอบด้วย
ถาม: ใช้ EA และ Scalping กับ FP Markets ได้ไหม?
ตอบ: บัญชี Raw ECN ของ FP Markets ถูกออกแบบมาสำหรับสาย Scalping และ EA โดยเฉพาะ ด้วยสเปรดเริ่มต้นจาก 0.0 pip และค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ แต่อย่างไรก็ยังควรทดสอบล็อตเล็กก่อนเพื่อดูสภาพตลาดจริงในช่วงเวลาที่คุณเทรด
ถาม: ฝาก–ถอนเป็นเงินบาทได้ไหม?
ตอบ: ลูกค้าไทยสามารถฝาก–ถอนผ่านช่องทางที่รองรับ THB ได้ เช่น โอนผ่านธนาคารท้องถิ่นหรือผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาค โดย FP Markets ไม่คิดค่าธรรมเนียมฝั่งโบรกเกอร์ แต่ค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการอาจยังมีอยู่
ถาม: FP Markets เหมาะเป็นโบรกเกอร์หลักหรือโบรกเกอร์เสริม?
ตอบ: สำหรับเทรดเดอร์ไทยหลายคน FP Markets มักเริ่มต้นในฐานะ “โบรกเกอร์เสริม” ไว้เปรียบเทียบสภาพแวดล้อมการเทรด สเปรด และการส่งคำสั่งกับโบรกเกอร์หลักที่ใช้อยู่ หากทดลองแล้วถูกใจจึงค่อยเพิ่มน้ำหนักพอร์ตในภายหลัง

สรุปรีวิว FP Markets ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

ในปี 2025 FP Markets ยังคงรักษาภาพของโบรกเกอร์สเปรดต่ำที่มีแพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย อยู่ภายใต้การกำกับจากหลายหน่วยงานต่างประเทศ และรองรับตลาดเอเชียรวมถึงไทยทั้งในแง่ภาษาและช่องทางฝาก–ถอน จุดแข็งคือบัญชี Raw ECN ที่เหมาะมากสำหรับสายต้นทุนต่ำและผู้ใช้ EA ส่วนบัญชี Standard ก็เป็นตัวเลือกที่เข้าใจง่ายสำหรับคนที่ไม่อยากคิดเรื่องค่าคอมมิชชันแยกต่างหาก

FP Markets อาจไม่ได้ตอบโจทย์เทรดเดอร์ไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับโบนัสหรืออยากได้โบรกเกอร์ที่ “ไทยจ๋า” แต่ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุน แพลตฟอร์ม และคุณภาพการส่งคำสั่ง FP Markets ก็เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่ควรลองเปิดบัญชีเงินจริงขนาดเล็กเพื่อทดสอบด้วยตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะย้ายหรือกระจายพอร์ตเข้ามามากน้อยแค่ไหน

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว FOREX.com โบรกเกอร์สหรัฐฯ เน้นมาตรฐานและความปลอดภัย ปี 2025

FOREX.com เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับสากลภายใต้กลุ่ม StoneX Group Inc. บริษัทการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และมีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 20 ปี ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์อื่น ๆ รวมมากกว่า 5,000 สัญลักษณ์ โดยเน้นภาพลักษณ์ “โบรกเกอร์สายมาตรฐานตะวันตก” ที่ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ ความโปร่งใส และคุณภาพแพลตฟอร์มมากกว่าการแข่งขันด้วยโบนัสหรือเลเวอเรจสูง

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว Saxo Bank โบรกเกอร์สายหุ้นและการลงทุนระดับพรีเมียม ปี 2025

Saxo Bank เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนจากเดนมาร์กที่ขยายบริการสู่การเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งฟอเร็กซ์ หุ้นต่างประเทศ ดัชนี CFD พันธบัตร ETF ฟิวเจอร์ส และผลิตภัณฑ์ลงทุนอีกจำนวนมาก จุดต่างสำคัญของ Saxo Bank เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั่วไปคือ บริษัทมีสถานะเป็น “ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบ” ไม่ใช่แค่โบรกเกอร์ในเชิงเทคนิค ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินสากล มากกว่าบริษัทโบรกเกอร์ขนาดเล็ก

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว XTB 2025: โบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดฟอเร็กซ์และ CFDs สำหรับเทรดเดอร์ไทย

XTB เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 และมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการให้บริการเทรดทั่วโลก จุดเด่นของ XTB คือการเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย ตัวเลือกบัญชีที่หลากหลาย และการเลือกตลาดที่ครอบคลุม XTB ได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย เนื่องจากมีการควบคุมที่เข้มงวดและบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว IG โบรกเกอร์ระดับโลก ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

IG หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ IG Markets เป็นโบรกเกอร์จากสหราชอาณาจักรที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1974 ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จุดขายหลักของ IG ไม่ใช่โบนัสหรือเลเวอเรจสูงแบบโบรกเกอร์สายเอเชีย แต่คือความแข็งแรงด้านการกำกับดูแล ความโปร่งใสของต้นทุน และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงคริปโตบางประเภท

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

AvaTrade 2025 รีวิว: การกำกับดูแล ความปลอดภัย และข้อได้เปรียบในการเทรด

AvaTrade is a globally recognized forex and CFD broker established in 2006. With a presence in various regions, including Southeast Asia and Thailand, AvaTrade stands out for its robust regulatory framework and comprehensive trading options. The broker is regulated by multiple international bodies, ensuring a high level of security for traders. AvaTrade's appeal lies in its wide range of account types, user-friendly platforms, and competitive trading conditions.

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว Global Prime ปี 2025 เปรียบเทียบต้นทุน สเปรด และระบบเทรด สำหรับคนไทย

Global Prime เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD จากออสเตรเลียที่ทำตลาดมานานพอสมควร จุดเด่นไม่ใช่การทำการตลาด派 หรือการแจกโบนัสใหญ่โต แต่คือภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสในการส่งคำสั่ง และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Providers) แบบที่เทรดเดอร์สายจริงจังให้ความสนใจ

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →